จากมุมเปลี่ยว มุมหนึ่ง

วันนี้จะมาขอเปลี่ยนไสตล์การเขียน blog จากแนะนำ software มาเป็นเรื่องเล่าตามแนวความคิดละกันนะครับ ในขณะที่เขียน blog เรื่องนี้อยู่ ผมอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในราชธานีครับ ไม่ได้ในฐานะคนป่วย แต่เป็นหนึ่งในฐานะของคนเฝ้าไข้

เรื่องเกิดขึ้นจากเมื่อคืนวานในขณะที่ผมกำลังหลับไหลอยู่ที่ห้องพัก ด้วยอาการ ง่วง เมื่อย เพลีย เนื่องจากฤทของหวัดที่เป็นมานานนับสัปดาห์ หลังจากหยิบโทรศัพท์มาดูก็พบว่ามี miscall เข้ามา 48 สาย!! แต่ไม่ได้ยินครับ เพราะผมปิดทั้งระบบสั่นและระบบเสียง ต่อเนื่องมาจากที่ทำงานเพราะกลัวเสียงไปรบกวนคนอื่น

แรกๆ ไม่ได้คิดอะไรครับ นึกว่าที่ทำงานโทรมาตามงานปกติ ก็เลยรีบนอนครับ !!  เพราะว่าตื่นเช้าจะได้รีบเข้าไปดูว่ามันเกิดปัญหาอะไรขึ้นทั้งๆ ที่ไม่ได้โทรกลับ

แต่ทว่า มันไม่ใช่…

miscall ทั้ง 48 miscall นั้นมาจากโทรศัพท์ของพี่สาวแฟน ที่โทรมาบอกว่า โดนผู้ไม่ประสงค์ดี ขับรถประกบแล้วถีบระมอเตอร์ไซต์ล้ม ตอนนี้พักอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการ

พอได้ยินข่าวถึงกับอึ้งครับ เพราะไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องแบบนี้กับคนใกล้ตัว

ก่อนที่จะเล่าต่อครับ เรามาวิเคราห์กันสักหน่อย สิ่งแรกที่ได้หลังจากได้ยินเรื่องแบบนี้คืออะไร

1. เรื่องแบบนี้มีบ่อยครับ ตามข่าวทีวี หนังสือพิมพ์ ทั่วไป สิ่งแรกที่จะต้องคิดคือ “ทำใจ” เพราะเรื่องแบบนี้อาจจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว หรือกับตัวเราเมื่อไหร่ก็ได้

2. หลังจากทำใจแล้ว จะไปคิดอาฆาตแค้นผู้ไม่ประสงค์ดีไหม คำตอบคือ ไม่ครับ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม อาจจะเป็นกรรมที่เราต้องชดใช้ หรือว่า เป็นกรรมที่คนอื่นก่อมา แล้วชาติหน้าเขาอาจจะต้องมาใช้กรรมแบบนี้กับเรา หรือกับคนอื่นอีก ไม่จบไม่สิ้น เคยได้ยินพระท่านเทศว่า กว่าจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ปุถุชนนั้น แสนลำบาก ถ้าเราเกิดมาแล้วมาทำกรรมเพิ่ม อันนนั้นก็สุดแล้วแต่สิ่งที่แต่ละคนจะทำครับ

3. หาวิธีป้องกันครับ ครั้นจะไปพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเดียวก็คงไม่ได้ คงไม่พอกับจำนานประชากรเป็นแน่แท้ มิจฉาชีพพวกนี้ มันคงมีปะปนอยู่ในสังคมอยู่ตลอดไปครับ ที่นี้ เราจะหาวิธีป้องกันจากภัยอันตรายจากพวกนี้อย่างไร อันนี้ก็เป็นเรื่องน่าคิด บางสิ่งก็เป็นปาฎิหาริย์ครับ เพราะฉะนั้น บางครั้งเราเตรียมพร้อมมาดี แต่ถ้าไม่ได้วิ่งปาฎิหาริย์ช่วย ก็คงไม่ต่างอะไรกับการที่เราขับรถอย่างระมัดระวังแล้วมีคนมาชนท้ายละครับ

คราวนี้เรามาดูว่า ปาฎิหาริย์ จะเกิดขึ้นได้อย่างไร

ผมเชื่อว่า มนุษย์ทุกคนมรกรรมติดตัวครับ ทั้งกรรมที่เพิ่งก่อในชาตินี้ หรือจะเป็นกรรมที่ตามมาตั้งแต่ชาติปางก่อน เราไม่อาจลบล้างกรรมนั้นได้ แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือ การผ่อนหนัก ให้เป็นเบา  ผมเชื่อว่า การคิดดี ทำดี เป็นหนทางที่จะช่วยให้เราตัวเราปาฎิหาริย์ ได้อย่างหนึ่ง

ต่อไปก็เป็นเรื่องของเครื่องรางของขลังครับ

การมีเครื่องรางของขลังติดตัว ผมเชื่อว่าช่วยในเรื่องปาฎิหาริย์ได้หลายเรื่องครับ อย่างน้อยที่สุด เราจะมีความมั้นใจมากขึ้น ต่อการกระทำสิ่งต่างๆ เราจะรู้สึกถึงความเป็น ผิด ชอบ ชั่วดี มากขึ้น ต่อการกระทำสิ่งต่างๆ หรือถ้าเราจะกระทำอะไรไม่ดี เราก็อาจจะรู้สึกละอาย ต่อสิ่งที่เป็นวัตถุมงคลเหล่านั้น อย่างเช่นเป็นต้นว่า การเดินลอดราวตากผ้า ไม่ได้ อย่างน้อยสิ่งนี้ ก็จะสอนให้เราใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น เมื่อเรามีจิตใจ ที่ระลึกถึงคุณของพระเสมอ ผมเชื่อว่า ปาฎิหาริย์ เกิดแน่นอนครับ

สำหรับสองสิ่งนี้เราจะไปตามหาได้ที่ไหน

อันดับแรก ต้องรู้จักทำบุญครับ แล้วให้คิดว่าเราไม่ได้ทำบุญเพื่อตัวเอง แต่เราทำบุญเพื่อไถ่คืนให้เจ้ากรรมนายเวรของเรา หรือคนใกล้ชิดเรา ผมเชื่อว่า ถ้าเราส่งบุญให้คนอื่นแล้ว บุญของเราก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นครับ เปรียบเสมือนการสงความสุขให้คนอื่น เราก็มีความสุขเพิ่มขึ้นเช่นกัน

อันดับต่อมาคือการเช่าหาบูชาพระเครื่อง สำหรับการเช่าบูชาพระเครื่องนั้น ผมคิดว่าเราควรจะไปเช่าจากวัดโดยตรงครับ อันดับแรกเลยคือได้ของแท้แน่นอน อันดับต่อมาคือเงินที่เราเช่าพระเครื่องไปก็เปรียบเสมือนเงินทำบุญให้กับวัด เงินในส่วนนี้ก็จะช่วยทำนุบำรุงพุทธศาสนาให้ยั่งยืนต่อไป อย่างน้อยเราก็ยังได้ทำบุญครับ เมื่อเราได้ทำบุญ ผมเชื่อว่าสิ่งศักสิทธิ์เหล่านั้นจะคุ้มครองเรา

ครับ บทความตอนนี้ผมเขียนยาวมาก จะขอจบไว้แค่นี้ละกันนะครับ ในขณะเขียนนี้ผมยังอยู่ข้างๆ คนไข้อยู่ ณ กลางดึกคืนหนึ่ง…

 

Leave a Comment